วิธีตรวจสอบคุณภาพของสายสัญญาณ RF แบบโคแอกเชียล

คุณภาพของสายสัญญาณแบบโคแอกเชียล (RF coaxial cables) มีผลโดยตรงต่อความเสถียรและความสูญเสียในการส่งสัญญาณ สายสัญญาณแบบโคแอกเชียลคุณภาพสูงจะมีลักษณะหน้าตัดที่กลมมาก และชั้นป้องกันสัญญาณรบกวนด้านนอกและแผ่นอลูมิเนียมฟอยล์ของสายจะแนบสนิทกับพื้นผิวด้านนอกของฉนวนกันความร้อน โดยปกติแล้วพื้นผิวของฉนวนจะมีลักษณะกลม และมีสมรรถนะที่ดีกว่า ในวันนี้ บรรณาธิการจะพาทุกท่านไปทำความเข้าใจวิธีตรวจสอบคุณภาพของสายสัญญาณแบบโคแอกเชียล (RF coaxial cables)

1. สังเกตลักษณะความกลมของฉนวนกันความร้อน

สายเคเบิลโคแอกเชียลแบบมาตรฐานมีลักษณะหน้าตัดกลมมาก โดยเปลือกโลหะด้านนอกของสายเคเบิลและแผ่นฟอยล์อลูมิเนียมจะติดอยู่กับพื้นผิวด้านนอกของตัวฉนวน ยิ่งพื้นผิวด้านนอกของตัวฉนวนมีลักษณะกลมมากเท่าไร ช่องว่างระหว่างแผ่นฟอยล์อลูมิเนียมกับพื้นผิวด้านนอกก็จะยิ่งเล็กลง และหากพื้นผิวนั้นไม่กลม ก็จะทำให้เกิดช่องว่างที่ใหญ่ขึ้น ทั้งนี้ได้มีการพิสูจน์แล้วจากการใช้งานจริงว่า ช่องว่างที่เล็กกว่าย่อมให้สมรรถนะของสายเคเบิลที่ดีกว่า นอกจากนี้ ช่องว่างที่ใหญ่จะทำให้อากาศเข้าแทรกซึมเข้าไปในชั้นป้องกันสัญญาณได้ง่าย ซึ่งจะส่งผลให้อายุการใช้งานของสายเคเบิลลดลง

2. ตรวจสอบความสม่ำเสมอของตัวฉนวนในสายเคเบิลโคแอกเชียล

การเปลี่ยนแปลงของเส้นผ่านศูนย์กลางตัวฉนวนในสายเคเบิลโคแอกเชียลมีผลโดยตรงต่อค่าสัมประสิทธิ์การสะท้อนสัญญาณ (Echo Coefficient) ของสายเคเบิล ในการตรวจสอบนี้ สามารถทำได้โดยการตัดตัวฉนวนของสายเคเบิลในช่วงหนึ่งออก จากนั้นใช้ไมโครมิเตอร์ตรวจสอบเส้นผ่านศูนย์กลางของแต่ละจุดอย่างละเอียด เพื่อดูว่ามีความสม่ำเสมอหรือไม่

3. ตรวจสอบคุณภาพของแผ่นฟอยล์อลูมิเนียม

ฟอยล์อลูมิเนียมมีบทบาทสำคัญในการป้องกันสัญญาณรบกวนในสายสัญญาณแบบโคแอกเชียล (Coaxial cables) ซึ่งสามารถป้องกันการรบกวนจากสัญญาณวงจรเปิดภายนอก และป้องกันการรั่วของสัญญาณเคเบิลทีวี ดังนั้น ควรตรวจสอบคุณภาพของฟอยล์อลูมิเนียมสำหรับสายโคแอกเชียลใหม่ก่อนใช้งาน ขั้นแรก ให้ตัดชั้นป้องกันออกและสังเกตว่าพื้นผิวของชั้นลวดถักและชั้นฟอยล์อลูมิเนียมยังคงมีความเงางามดีหรือไม่ จากนั้นนำสายเคเบิลมาส่วนหนึ่งและพันรอบเพลาโลหะให้แน่น คลี่ออกและบิดในทิศทางตรงข้าม ทำซ้ำหลายครั้ง แล้วจึงตัดชั้นเปลือกเคเบิลออกเพื่อสังเกตว่าฟอยล์อลูมิเนียมมีรอยร้าวหรือไม่ อีกวิธีหนึ่งคือ ตัดฟอยล์อลูมิเนียมเล็กน้อยและใช้มือขยี้และยืดซ้ำๆ หากฟอยล์ยังคงไม่ขาดแม้จะขยี้และยืดหลายครั้ง แสดงว่ามีความเหนียวพอสมควร แต่หากเกิดการขาดก่อนหน้านั้น ถือว่าคุณภาพไม่ผ่านมาตรฐาน

4. ตรวจสอบตาข่ายถักของสายสัญญาณโคแอกเชียล

ตาข่ายถักของสายสัญญาณแบบโคแอกเชียลมีบทบาทสำคัญต่อประสิทธิภาพการป้องกันสัญญาณรบกวนของสายสัญญาณแบบโคแอกเชียล ไม่ว่าจะเป็นสายส่งสัญญาณโทรทัศน์ระบบเคเบิลที่ใช้ไฟฟ้าแบบจ่ายศูนย์กลางหรือสายวงจรไฟฟ้า การตรวจสอบคุณภาพของสายสัญญาณโคแอกเชียลต้องสังเกตอย่างละเอียดว่าตาข่ายถักมีความแน่นและเรียบสม่ำเสมอหรือไม่ วิธีการคือการผ่าปลอกด้านนอกของสายโคแอกเชียลออก จากนั้นตัดส่วนหนึ่งของตาข่ายถักออกเพื่อตรวจสอบจำนวนเส้นของตาข่ายถัก หากตรงตามค่ามาตรฐานที่กำหนดก็ถือว่าผ่านเกณฑ์ นอกจากนี้ ยังสามารถวัดเส้นผ่าศูนย์กลางของเส้นตาข่ายเดี่ยวด้วยไมโครมิเตอร์แบบเกลียว เมื่อเปรียบเทียบในราคาที่ใกล้เคียงกัน เส้นที่มีความหนาจะบ่งบอกถึงคุณภาพที่ดีกว่า

5. ตรวจสอบความแน่นของการอัดชั้นปลอกด้านนอก

ชั้นป้องกันด้านนอกของสายสัญญาณแบบโคแอกเชียลคุณภาพสูงจะถูกหุ้มไว้อย่างแน่นหนา ซึ่งสามารถลดช่องว่างภายในชั้นป้องกัน ป้องกันไม่ให้อากาศเข้าไปภายในและก่อให้เกิดการออกซิเดชัน รวมทั้งป้องกันไม่ให้ชั้นป้องกันเคลื่อนตัวสัมพัทธ์กันจนทำให้คุณสมบัติทางไฟฟ้าเปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ตาม หากการหุ้มแน่นเกินไป จะทำให้เกิดความไม่สะดวกในการลอกหัวสายออก และเพิ่มความยากลำบากในขั้นตอนการติดตั้ง วิธีการตรวจสอบคือ นำสายเคเบิลยาว 1 เมตร มาลอกชั้นป้องกันที่ปลายออก แล้วพยายามดึงแกนสายออกมาด้วยแรง

6. สังเกตว่าสายมีลักษณะกลมสม่ำเสมอ

การก่อตัวของสายไฟแบบเป็นวงไม่เพียงแต่สะท้อนออกมาในรูปลักษณ์ที่สวยงามเท่านั้น แต่สำคัญกว่านั้นคือสะท้อนถึงคุณภาพของสายไฟเอง สายไฟถูกขึ้นรูปให้เป็นวงกลมแบน และแต่ละเส้นสายไฟจะถูกจัดวางอยู่บนระนาบศูนย์กลางเดียวกัน สายไฟสัมผัสกันเป็นส่วนโค้งวงกลมที่ขนานกัน ซึ่งสามารถลดแรงกระทำระหว่างสายไฟด้วยกัน และป้องกันการบิดงอและเสียหายขณะที่ซ้อนทับกันอยู่ ดังนั้นเมื่อทำการตรวจสอบคุณภาพของสายไฟ อย่าละเลยหรือมองผ่านๆ ด้วยสายตาเพียงคร่าวๆ แต่ควรสังเกตอย่างละเอียดถี่ถ้วน

แท็ก # การตรวจสอบคุณภาพสายสัญญาณ RF Coaxial # คุณสมบัติของสายสัญญาณ RF Coaxial #